ภาพข่าวงานประชุมวิชาการนานาชาติ เครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการด้านการแพทย์ในประชาคมอาเซียน ครั้งที่ 2

กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข จัดงานประชุมวิชาการนานาชาติฯ ครั้งที่ 2แลกเปลี่ยนความรู้ด้านการแพทย์เฉพาะทาง 10 ประเทศอาเซียนเข้าร่วม พร้อมด้วยผู้ทรงคุณวุฒิจากองค์กรภาคีเครือข่ายทั้งในและต่างประเทศ รวมกว่า 300 คน

ในภาพอาจจะมี 5 คน, คนที่ยิ้ม, ผู้คนกำลังยืน และชุดสูท

กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข จัดงานประชุมวิชาการนานาชาติ เครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการด้านการแพทย์ในประชาคมอาเซียน ครั้งที่ 2 เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและความรู้ด้านการแพทย์และการสาธารณสุข 3 สาขา ได้แก่ เวชศาสตร์ฉุกเฉิน จักษุวิทยา และเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นการประชุมต่อเนื่องมาจากปีที่แล้ว โดยในปีนี้มีเพิ่มอีก 1 สาขาความร่วมมือ คือ ทันตกรรม ซึ่งรวมนักวิชาการนานาชาติ นักวิชาการไทยทั้งภาครัฐและเอกชน บุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุข รวมกว่า 300 คน จาก 10 ประเทศอาเซียน และองค์กรภาคีเครือข่ายทั้งในและต่างประเทศ

ในภาพอาจจะมี 1 คน, สถานที่ในร่ม

ในภาพอาจจะมี 1 คน, ข้อความ
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ในการแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการแพทย์ของกลุ่มเครือข่ายวิชาการการแพทย์ในประชาคมอาเซียนนี้ ถือว่ามีส่วนสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์ให้มีความรู้รอบด้าน พร้อมรับมือต่อสถานการณ์ในปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และมีแนวโน้มของผลกระทบที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ กรมการแพทย์จึงได้ให้ความสนใจในปัญหาเรื่องการดูแลสุขภาพ, สังคมผู้สูงอายุ, ปัญหาสุขภาพที่เกิดจากเทคโนโลยี, ภัยพิบัติทางธรรมชาติ, ความแตกต่างของช่วงอายุ หรือปัญหาอื่นๆ ซึ่งปัญหาเหล่านี้ทำให้เรามีการปรับการบริการทางการแพทย์ ให้พร้อมรับมือกับสภาพแวดล้อมในปัจจุบันและเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งในประเทศไทย และในอาเซียน

ในภาพอาจจะมี 10 คน, คนที่ยิ้ม, ผู้คนกำลังยืน, ฝูงชน และสถานที่ในร่ม
“กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข มีภารกิจที่สำคัญในการบริการด้านการแพทย์ ทั้งการถ่ายทอดความรู้ และการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีทางการแพทย์ เพื่อประโยชน์ในการรักษาสุขภาพของประชาชน รวมทั้งการสนับสนุนนักวิชาการ นักพัฒนางานวิจัย วิทยาการทางการแพทย์ ให้มีความก้าวหน้าอยู่เสมอ สำหรับการดูแลสุขภาพของประชาชนในประเทศไทยและประชาคมอาเซียนในการประชุมแลกเปลี่ยนข้อมูลและความรู้ด้านการแพทย์ครั้งที่ 2 นี้ ยังคงเน้นในเรื่องของการสร้างเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง 3 สาขาเดิม และ 1 สาขาใหม่ ได้แก่ เวชศาสตร์ฉุกเฉิน จักษุวิทยา เวชศาสตร์ผู้สูงอายุ และทันตกรรม”

ในภาพอาจจะมี 1 คน, กำลังเต้น, กำลังยืน, รองเท้า และสถานที่ในร่ม
ทั้งนี้ ยังได้รับความร่วมมือจากกลุ่มเครือข่ายประเทศอาเซียน 10 ประเทศ ได้แก่ เวียดนาม, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, กัมพูชา, สิงคโปร์, เมียนมาร์, ลาว, ฟิลิปปินส์, บรูไน, และไทย ตลอดจนเลขาธิการอาเซียน พร้อมด้วยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากประเทศสมาชิกและองค์กรภาคีเครือข่ายทั้งไทยและต่างประเทศกว่า 124 คน โดยงานจัดขึ้นในวันที่ 7-9 สิงหาคม 2562 ณ โรงแรมชาเทรียม ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพมหานคร

Be the first to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published.


*