มหาวิทยาลัยมหิดล จัดงาน “Mahidol R-I-SE NOW” ครั้งแรกกับการแสดงผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่โดดเด่น ต่อยอดองค์ความรู้ สู่การยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน

มหาวิทยาลัยมหิดล จัดงาน “Mahidol R-I-SE NOW” ครั้งแรกกับการแสดงผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่โดดเด่น ต่อยอดองค์ความรู้ สู่การยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน

มหาวิทยาลัยมหิดล ชูแผนยุทธศาสตร์ 20 ปี ก้าวสู่ความเป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของไทยอย่างยั่งยืน ครั้งแรกกับการแสดงผลงานวิจัย และนวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมหาวิทยาลัยมหิดล “Mahidol R-I-SE NOW” Research & Innovation Special Exhibition โดยสถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม ร่วมกับ กองบริหารงานวิจัยและกองกิจการนักศึกษา เป็นเจ้าภาพจัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปีวันพระราชทานนาม 131 ปีมหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยมหิดล หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ภายในงานมีการแสดงผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่โดดเด่นตอบสนองยุทธศาสตร์ของประเทศในการขับเคลื่อน Thailand 4.0 อย่างเป็นรูปธรรม กว่า 90 บูธ พร้อมพบกับเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนความรู้ในหลากหลายหัวข้อ กับกูรูตัวจริงในด้านการวิจัยและผลงานนวัตกรรม พร้อมเวทีเสวนาจากภาคเอกชน สร้างความร่วมมืออย่างเป็นบูรณาการ รวมทั้งเปิดโอกาสให้นักเรียน นักศึกษา เปิดโอกาสทางความคิดบนเวทีการประกวดไอเดียสร้างสรรค์ เพื่อต่อยอดองค์ความรู้เพื่อการแก้ปัญหาที่ยั่งยืน สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น ในระหว่างวันที่ 23 – 24 สิงหาคม 2562 ณ คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ถนนโยธี (ตรงข้ามโรงพยาบาลรามาธิบดี) ร่วมงานฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย พร้อมพบกับกิจกรรมและของรางวัลมากมายตลอดงาน

ในภาพอาจจะมี 11 คน, คนที่ยิ้ม, ผู้คนกำลังยืน

ในภาพอาจจะมี 1 คน, กำลังยิ้ม, กำลังยืน และชุดสูท

ศาสตราจารย์ นพ.บรรจง มไหสวริยะ รักษาการแทนอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นสถาบันการศึกษาที่ผลิตบัณฑิตและผลงานวิจัยที่มีคุณภาพในหลากหลายสาขาวิชา มุ่งผลิตผลงานต่างๆ ที่มีศักยภาพสูงตามนโยบายการพัฒนาประเทศ เราจึงมีแผนยุทธศาสตร์ระยะ 20 ปี คือ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561-2580 เพื่อให้ทิศทางและนโยบายการพัฒนามหาวิทยาลัยมีความชัดเจน สอดคล้อง และตอบสนองต่อเป้าหมายการพัฒนาประเทศ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ต่างๆ ทั่วโลกเป็นไปอย่างรวดเร็ว ทำให้เราต้องเร่งปรับตัวหาทางรับมือกับสิ่งที่คาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้น โดยมีการศึกษาถึงสถานการณ์และบริบท ทั้งจากภายในประเทศและของโลกในทุกมิติ โดยเฉพาะในมิติที่จะส่งผลต่อการพัฒนามหาวิทยาลัยในระยะสั้นและระยะยาว สถานการณ์ความท้าทายต่างๆ เช่น ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างก้าวกระโดด, การเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจ, การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ, การเปลี่ยนแปลงและความเหลื่อมล้ำทางสังคม เป็นต้น นอกจากนี้ มหาวิทยาลัย ยังต้องเข้าสู่การแข่งขันในเวทีโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งในหลายปีที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยมหิดลได้รับการจัดอันดับเป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของประเทศไทย จากสถาบันจัดอันดับมหาวิทยาลัยของโลกหลายสถาบัน

ในภาพอาจจะมี 4 คน, คนที่ยิ้ม

ในภาพอาจจะมี 4 คน, คนที่ยิ้ม, ชุดสูท

ในภาพอาจจะมี 1 คน, กำลังยืน, ชุดสูท และข้อความ

ในภาพอาจจะมี 2 คน, คนที่ยิ้ม, ผู้คนกำลังยืน และชุดสูท

สำหรับแผนยุทธศาสตร์สำคัญประการแรก ที่มหาวิทยาลัยมหิดลให้ความสำคัญ คือ Global Research & Innovation เป็นยุทธศาสตร์ที่สนับสนุนให้มีการผลิตงานวิจัยและงานนวัตกรรมคุณภาพสูง มีผลกระทบในระดับสากล โดยการสร้างกลุ่มวิจัยหลายรุ่นและแบบสหสาขา (Multi-generation Researcher & Multidisciplinary) โดยใช้วิธีการปรับการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล และจัดตั้งกองทุนสนับสนุน มีการสร้างความร่วมมือกับโครงการวิจัยนานาชาติแบบสหสถาบัน (Global Connectivity) และสร้างระบบสนับสนุนการวิจัยที่ครบวงจรจากต้นน้ำถึงปลายน้ำ ที่เรียกว่า Research Value Chain ด้วยการวิจัยแบบ demand – driven ที่ได้ข้อมูล หรือ คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ/ภาคเอกชน/ผู้ใช้ผลงานวิจัยจากชุมชนที่มีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ทั้งในระดับ global & social impact สามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่อสังคมและเชิงพาณิชย์ ซึ่งตัวอย่างผลงานด้านนวัตกรรม จะนำมาแสดงในงาน Mahidol University’s Research & Innovation Special Exhibition หรือ Mahidol R-I-SE NOW

ด้าน ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์ ภัทรชัย กีรติสิน ผู้อำนวยการสถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยมหิดล (iNT) กล่าวว่า ในปีนี้เป็นโอกาสอันดีที่มหาวิทยาลัยมหิดลครบรอบ 50 ปีแห่งวันพระราชทานนาม และ 131 ปีมหาวิทยาลัยมหิดล นับตั้งแต่ครั้งเริ่มก่อตั้งโรงศิริราชพยาบาล และมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ จึงเห็นสมควรให้มีการจัดงานนิทรรศการแสดงความก้าวหน้าของมหาวิทยาลัยทั้งด้านศาสตร์และศิลป์ เพื่อแสดงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ในความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยมหิดล ที่จะสร้างงานวิจัยและนวัตกรรม ที่ช่วยสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของคนไทย รวมถึงการเปิดรับฟังความคิด ข้อเสนอแนะ จากภาคประชาชน ภาคอุตสาหกรรม ภาคธุรกิจ เพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงอย่างมีบูรณาการกับมหาวิทยาลัย ในการสร้างความร่วมมือในงานวิจัยพัฒนา ที่จะนำไปสู่การส่งเสริมเศรษฐกิจที่มั่นคงอย่างยั่งยืนของประเทศ จึงได้กำหนดจัดงาน Mahidol University’s Research & Innovation Special Exhibition หรือ Mahidol R-I-SE NOW ขึ้นในวันศุกร์ที่ 23 ถึงวันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม 2562 ณ คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ถนนโยธี

ในภาพอาจจะมี 8 คน, ชุดสูท และสถานที่ในร่ม

ในงาน Mahidol R-I-SE NOW จะมีการจัดแสดงผลงานวิจัยและนวัตกรรม ที่เป็นไฮไลต์จากทุกคณะและสถาบันของมหาวิทยาลัยมหิดล โดยแบ่งเป็นโซนที่จะสร้างความสนใจแก่ผู้เข้าชมได้หลากหลาย อาทิ โซนด้านการแพทย์และสุขภาพ, ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, ด้านสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ รวมไปถึงการแสดงนวัตกรรมที่ทันสมัย และพร้อมสู่การถ่ายทอดเทคโนโลยี มากกว่า 90 บูธ เพื่อให้ภาคเอกชนและภาคอุตสาหกรรม นำไปใช้ประโยชน์แก่สังคมต่อไป อีกทั้งยังมีการจัดแสดงของบริษัท startup ต่างๆ ที่พร้อมสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วน รวมถึงผลงานวิจัย และนวัตกรรมของอาจารย์ นักวิจัย และนักศึกษา ของมหาวิทยาลัยมหิดลมีอีกหลากหลายประเภท อาทิ ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ ชุดตรวจทางห้องปฏิบัติการ หุ่นยนต์ เทคโนโลยี และสมองกลเพื่อช่วยพัฒนาด้านการแพทย์และความเป็นอยู่ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ ถึงอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อสังคมและชุมชน นอกจากนี้ยังมีผลงานด้านวัฒนธรรมและดนตรีที่ช่วยสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี รวมไปถึง อาหารเสริมสุขภาพและอาหารเพื่อผู้ป่วย อาทิ อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ที่พัฒนาจากถั่วและธัญพืชในธรรมชาติ, พุดดิ้งผัก อาหารเพื่อผู้สูงอายุที่สูญเสียฟัน รวมถึงเด็กที่ทานผักได้ยาก, ถั่งเช่าสีทอง ถั่งเช่าที่เพาะเลี้ยงด้วยวิธีการพิเศษ ให้สารอกฤทธิ์สูงกว่าถั่งเช่าปกติ ซึ่งผลงานต่างๆ นี้ นอกจากจะช่วยให้เกิดความก้าวหน้าในสังคมไทย ที่จะทัดเทียมนานาชาติแล้ว ยังมีส่วนช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศ และสนับสนุนนโยบาย Thailand 4.0 ได้อย่างตรงเป้าหมาย

ในภาพอาจจะมี 4 คน, คนที่ยิ้ม, สถานที่ในร่ม

ศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์ ภัทรชัย กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ภายในงาน Mahidol R-I-SE NOW ยังจัดให้มีเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนความรู้ในหลากหลายหัวข้อที่น่าสนใจ อาทิ ปาฐกถาเรื่อง “พลิกฟื้นประเทศไทย ด้วยวิจัยและนวัตกรรม” โดย ศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์อุดม คชินทร เพื่อให้เข้าใจถึงนโยบายภาครัฐ กอบกับกระบวนการทำงานโดยใช้การวิจัยและนวัตกรรมต่างๆ เป็นตัวผลักดันเพื่อพัฒนาประเทศชาติให้เติบโตทั้งในด้านสังคมและเศรษฐกิจ รวมทั้งเพิ่มศักยภาพด้านการแข่งขันให้สูงขึ้นทัดเทียมกับนานาชาติ, ปาฐกถาเรื่อง “อว. กระทรวงใหม่กับโฉมใหม่ของงานวิจัย – นวัตกรรม” โดย รองศาสตราจารย์ นายแพทย์สรนิต ศิลธรรม ท่านปลัดท่านแรกของกระทรวงใหม่ล่าสุดของประเทศไทย คือ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม เพื่อแสดงให้เห็นถึงบทบาทหน้าที่การทำงานของกระทรวงฯ พร้อมพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมของไทยด้วยภาพลักษณ์ใหม่ด้วยแนวคิดที่เท่าทันโลก, ปาฐกถาเรื่อง “ทุนวิจัยเพื่อนวัตกรรม สร้างคนและองค์ความรู้แห่งอนาคต” โดย ศาสตราจารย์ นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ พูดคุยเรื่องเงินทุนเพื่องานวิจัย เพื่อสร้างความเป็นเลิศด้านนวัตกรรม มุ่งหวังเพื่อการพัฒนาเสริมศักยภาพผู้ทำงานวิจัยให้เข้มแข็ง พร้อมต่อยอดองค์ความรู้เพื่อการแก้ปัญหาที่ยั่งยืน และการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ สร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในประเทศต่อไป

ในภาพอาจจะมี 6 คน, คนที่ยิ้ม, ผู้คนกำลังยืน, ผู้คนกำลังนั่ง, ชุดสูท, งานแต่งงาน และสถานที่ในร่ม

 

ในภาพอาจจะมี 5 คน, คนที่ยิ้ม, ผู้คนกำลังยืน และสถานที่ในร่ม

ในภาพอาจจะมี 1 คน, กำลังยิ้ม, กำลังยืน และชุดสูท

อีกทั้งภายในงาน ยังได้จัดเวทีเสวนาในหัวข้อทางวิชาการที่จะสร้างความเข้าใจให้แก่ประชาชน อาทิ “กัญชาไทยกับทิศทางที่ท้าทาย” โดย ดร.เปรมวิทย์ จรีเวฬุโรจน์ ที่ปรึกษาอธิการบดีฝ่ายวิจัยและวิชาการ มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อให้สังคมได้เข้าใจกฎข้อบังคับการใช้กัญชาทางการแพทย์อย่างถูกต้อง รวมไปถึงทิศทางการปลูกกัญชาในเชิงพาณิชย์ที่เป็นข้อถกเถียงในปัจจุบัน, เสวนาวิชาการหัวข้อ “วิจัยนอกกรอบ: กรณีศึกษาวัคซีนมาลาเรีย” โดย ดร.เจตสุมน สัตตบงกช ประจำศรี รองคณบดีฝ่ายวิจัย คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล ผู้เชี่ยวชาญที่คร่ำหวอดอย่างมากในวงการโรคมาลาเรีย เพื่อพูดคุยถึงความก้าวหน้าของการวิจัยไทย ในการคิดค้นวัคซีนสำหรับโรคมาลาเรีย โรคติดต่อจากยุงก้นปล่องสู่มนุษย์ ที่มีเฉพาะในเขตร้อนชื้นเท่านั้นและไม่สามารถอาศัยสัตว์ทดลองในการวิจัยได้ นอกจากนี้ยังมีการเสวนาแนวคิดจากภาคเอกชน เพื่อสร้างความร่วมมือกันอย่างเป็นบูรณาการอีกด้วย

ไม่มีคำอธิบายรูปภาพ

ไม่มีคำอธิบายรูปภาพ

ไม่มีคำอธิบายรูปภาพ

ในภาพอาจจะมี 1 คน

ในภาพอาจจะมี 4 คน, สถานที่ในร่ม

พร้อมพบกับเวทีเสวนาจากภาคเอกชน เพื่อสร้างคุณภาพต่อยอดผลงานวิจัย สู่เส้นทางการบูรณาการองค์ความรู้ที่หลากหลาย อาทิ เสวนาเรื่อง “Digital Disruption กับนวัตกรรมแห่งโลกการเงิน (ใกล้ตัวคุณ)” โดย คุณกิตติภัทร์ ดำรงปราชญ์ ทีมดิจิทัล ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด พูดคุยถึงการพัฒนาของนวัตกรรมดิจิทัลที่จะมาแทนที่การทำงานในระบบเดิมๆ พร้อมการปรับตัวเพื่อเข้าสู่ยุคการเงินดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ, เสวนาเรื่อง “สานฝันด้วยศาสตร์และศิลป์กับหมอตั้ม” โดย หมอตั้ม (นายแพทย์ดิษกุล ประสิทธิ์เรืองสุข) หนุ่มหล่อมากความสามารถ จากเวที MasterChef Thailand SS2 และ Cleo Bachelors 2018 พูดคุยหมอหนุ่มผู้มีใจรักในการทำอาหาร ถึงแนวความคิด ในการใช้ความรู้ทางการแพทย์ผสานเข้ากับการสร้างสรรค์อาหารได้อย่างลงตัว และเหนือสิ่งอื่นใด ในงาน Mahidol R-I-SE NOW ยังได้เปิดโอกาสทางความคิดให้แก่นักเรียน นักศึกษา ทั่วประเทศ บนเวทีการประกวดไอเดียสร้างสรรค์ ในหัวข้อ “Smart Health” นำเสนอการใช้เทคโนโลยี หรือแนวคิดที่หลากหลาย ในการสร้างนวัตกรรมส่งเสริมสุขภาวะที่ดีของคนไทย โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างนวัตกรรมมาช่วยกันให้ข้อเสนอแนะ โดยจะจัดการประกวด รวมถึงประกาศผลและมอบรางวัล ในงานวันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม 2562 ซึ่งไอเดียที่สร้างสรรค์ในเวทีนี้ จะมีโอกาสได้รับการต่อยอดไปสู่ผลิตภัณฑ์หรือระบบทางการแพทย์ ที่สามารถสร้างชีวิตที่ดีให้กับคนไทยหรือระดับโลกได้อีกด้วย

ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมชมงานแสดงผลงานวิจัย และนวัตกรรมที่โดดเด่นของมหิดล ในงาน Mahidol University’s Research & Innovation Special Exhibition หรือ Mahidol R-I-SE NOW ได้ในวันศุกร์ที่ 23 ถึงวันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม 2562 ณ คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ถนนโยธี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02 849 6050-3 หรือติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ facebook.com/MAHIDOLRISENOW

นำเสนอข่าวโดยบริษัทที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์กิจกรรม SACICT Mobile Gallery 2019

สอบถามเพิ่มเติมกรุณาติดต่อคุณสิทธิกร เสงี่ยมโปร่ง โทร. 096-916-3642 หรือ 02-553-3160-3

Be the first to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published.


*