ม.รังสิตจัดสัมมนาอาจารย์แนะแนวทั่วประเทศเพื่อให้ทันยุค GenZ

มหาวิทยาลัยรังสิตสัมมนาครูแนะแนว

ม.รังสิตจัดสัมมนาอาจารย์แนะแนวทั่วประเทศเพื่อให้ทันยุค GenZ การบรรยายโครงการร้อยรวมเป็นหนึ่ง: แนะแนวยุค Gen Z ฝ่ายแนะแนวและรับนักศึกษา และฝ่ายสื่อสารองค์กร มหาวิทยาลัยรังสิต จัดสัมมนาครูแนะแนวทั่วประเทศไทยในโครงการร้อยรวมเป็นหนึ่ง: แนะแนวยุค Gen Z” ระหว่างวันที่ 1-3 กรกฎาคม 2559 ณ โรงแรมดุสิต พัทยา

ฝ่ายแนะแนวและรับนักศึกษา และฝ่ายสื่อสารองค์กร มหาวิทยาลัยรังสิต จัดสัมมนาครูแนะแนวทั่วประเทศไทยในโครงการร้อยรวมเป็นหนึ่ง: แนะแนวยุค Gen Z” ระหว่างวันที่ 1-3 กรกฎาคม 2559 ณ โรงแรมดุสิต พัทยา จังหวัดชลบุรี ภายในงานมีการบรรยายพิเศษในหัวข้อต่างๆ ดังนี้
ศ.ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ อธิการวิทยาลัยรัฐกิจ มหาวิทยาลัยรังสิต หัวข้อ “บูรพาภิวัตน์”
ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต หัวข้อ “วิชาการ วิชางาน วิชาคน”
คุณคุณโอ- วีระ เจียรนัยพานิชย์ (Head of SME Network Marketing Development ธนาคารกสิกรไทย) และ คุณโจ้ – สุวัชชัย แก้วทรัพย์ศักดิ์ นักโปรแกรมจิตใต้สำนึกและการบำบัด (ศิษย์เก่าและอดีตนายกสโมฯ ของคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรังสิต) หัวข้อ “แนะแนวยุค GEN Z” (การบรรยายด้วยเทคนิคกิจกรรมกลุ่ม)

“วิชาการวิชางานวิชาคน”
ดร.อาทิตย์อุไรรัตน์อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต

จากการไปร่วมฟังการสัมมนาฯรวมครูแนะแนว ของโรงเรียนระดับมัธยมทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 1-3 กค.2559 ที่ผ่านมา ณ รร.ดุสิตธานี พัทยา งานนี้นำทีมโดย ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต และคณะผู้บริหาร คณาจารย์และทีมประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยรังสิต ดร.อาทิตย์ท่านมานำเสนอใน หัวข้อ “วิชาการ วิชางาน วิชาคน” ซึ่งเป็นวันที่ 2 เนื้อหา ดีได้ความรู้ และแนวคิด ท่านได้หยิบยกสารคดีดีๆ คลิปและเรื่องราวรวมทั้ง บุคคลที่น่าติดตามและศึกษาอย่างหนุ่ม อังกฤษหัวใจไทย มาร์ติน วีลเลอร์มารับรางวัล ‘คนสร้างแรงบันดาลใจ’ ในพิธีปฐมนิเทศที่มหาวิทยาลัยรังสิตที่ยอมทิ้งฐานะ การศึกษา ที่ดีมาเป็นเกษตรกรไทยที่จ.ขอนแก่น ตลอดแนวโน้ม การศึกษา ความต้องการแรงงานของภาคเอกชน ภาคราชการไทย มหาวิทยาลัยรังสิต มหาวิทยาลัยเอกชนที่ก่อตั้งมายาวนาน ผลิตบัณฑิตไปรับใช้สังคมมากว่า 30 ปี มีคณะวิชาที่ครอบคลุมและหลากหลายสาขาฯ ทั้งวิทยาศาสตร์สุขภาพ และ มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ ศิลปะ ฯลฯ ได้รับการยอมรับจากบริษัทห้างร้านว่าบัณฑิตที่จบจากที่นี้มีคุณภาพทุกๆคน

บทบรรยายของท่าน ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดี ม.รังสิต ซึ่งสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ครูแนะแนวทั่วประเทศ ท่านเป็นรักบริหาร นักการศึกษาที่มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล กล้าลงทุนเม็ดเงินมหาศาลเพื่อการศึกษาของชาติ เพื่ออนาคตของเด็กไทยจะได้เล่าเรียนตามสาขาวิชาที่ตนถนัดเมื่อจบออกมารับใช้สังคมทุกๆวงการ

ท่านดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ฯ ได้จำแนกบทบรรยายไว้ดังนี้

ก.
นักการศึกษาไม่ใช่แค่ครูสอนหนังสือแต่นักการศึกษาเป็นผู้สร้างชาติ
ครูแนะแนวก็ไม่ได้เป็นเพียงผู้สร้างชาติแต่เป็นผู้กำหนดโชคชะตาและพรหมลิขิตของชาติ
เดิมเราวัดผลการเรียนหนังสือด้วยวิธีผิดๆเอาช้างลิงเสื้อจระเข้และปลามาวัดผลด้วยวิธีเดียวกันคือให้มันทั้งหมดแข่งกันปีนต้นไม้วิธีวัดผลแบบนี้มันชี้วัดได้หรือเพราะว่าลิงปีนต้นไม้เก่งที่สุด
เราหลงผิดในกลไกอย่างนี้มานานเหลือเกินเราถูกสอนมาแบบนี้ตลอดชีวิตผมเองก็ด้วย
เราวัดความสำเร็จด้วยความยิ่งใหญ่และร่ำรวยไม่เคยรู้จักตัวเองไม่รู้จักประเทศไทยเราเอง
ประเทศไทยคือความต่ำต้อยล้าหลังติดกับดักรายได้ปานกลางตามก้นฝรั่ง
ที่ผ่านมาประเทศไทยขายอะไรเราขายถูกๆหวังเศษเนื้อเฉพาะหน้าการสร้างคุณค่าของประเทศแบบที่ทำอยู่มันสิ้นคิดคิดสั้นไม่ยั่งยืนเราปล่อยสัมปทานป่าสัมปทานน้ำมันเหมือนแร่ทองคำแต่สิ่งที่เราได้ตอบแทนมามันไม่คุ้มกับที่เราเสียในอนาคตประเทศไทยจะหมดค่า
การลงทุนที่ชาวบ้านและรากหญ้าได้ประโยชน์มันต้องเป็นสถานประกอบการขนาดกลางหรือขนาดเล็ก(SMEs)ไม่ใช่การมีบรรษัทใหญ่ๆนายทุนใหญ่ๆที่ให้ชาวบ้านเป็นแค่แรงงานเป็นแค่ทาสรัฐบาลมองแต่การลงทุนขนาดใหญ่เขตเศรษฐกิจพิเศษเทคโนโลยีก็ของเขาแรงงานก็เพื่อนบ้านฝรั่งและญี่ปุ่นเอากำไรกลับไปเราเหลืออะไร…เหลือกากเหลือขยะมลพิษเหมือนให้เขามาใช้ที่ฟรีๆถึงจะคิดราคาค่างวดก็คิดราคาถูกๆได้ไม่คุ้มเสีย
ตอนนี้เราต้องมาตกผลึกยุทธศาสตร์และอนาคตชาติกันใหม่มองบ้านเราให้ขาดมองหาคุณค่าที่แท้จริงของเราว่าเรามีดีอย่างไรและจะทำอย่างไรกับทรัพยากรที่เรามีอยู่ให้มันมีคุณค่าทำแบบไม่ผลาญชาติการศึกษาต้องพัฒนาไปบนรากฐานแบบนี้เพราะฉะนั้นจากยุทธศาสตร์ชาติไม่ใช่แค่วิสัยทัศน์ของม.รังสิตแต่ต้องเป็นวิสัยทัศน์การทำการศึกษาของประเทศด้วยซ้ำ
เราต้องรู้ในคุณค่าของเราอย่าเอาง่ายเข้าว่าขายเอาเงินเฉพาะหน้าการศึกษามันเกี่ยวข้องกับการสร้างชาติไมใช่แค่สอนหนังสือ
หลักสูตรต่างๆต้องสอดรับและสนับสนุนศักยภาพของเราบางทีต้องอาศัยต่างประเทศบ้างถ้าจำเป็นก็ต้องทำแต่ต้องทำด้วยความสำนึกว่าคุณค่าของเราคืออะไรเช่นหลักสูตรอาหารเราเซ็น MOU กับEscoffier ของฝรั่งเศสหากเรียนหลักสูตรเชฟจะได้ปริญญาของเราและปริญญาจากฝรั่งเศสด้วยเราไม่ได้เห่อฝรั่งแต่มันจำเป็นต้องทำถ้าเราสร้างชื่อเราได้แล้วก็ไม่ต้องอาศัยชื่อเสียงของเขาอีกต่อไปเรื่องที่เรายังไม่ดีเลิศต้องเรียนรู้จากเขาอาหารไทยดีที่สุดอร่อยที่สุดอยู่แล้วฉะนั้นต้องประยุกต์เอาของดีของเราเข้ากับระบบเชฟที่ดีของเขามาสร้างมูลค่าเพิ่มให้ตัวเอง

ข.
คุณค่าของไทยที่ไทยมองไม่เห็นเราเชิดชูคุณค่าของเราเองบ้างหรือเปล่าหรือเรามัวแต่ตามก้นฝรั่งเมืองนอกเขาเชิดชูเราแล้วเราเคยมองเห็นคุณค่าในตัวเองบ้างไหม
แต่คุณค่าของไทยกลับเจิดจ้ามากในสายตาคนตะวันตกสิ่งสำคัญคือเราต้องมั่นใจและอย่าดูถูกตัวเองตัวอย่างที่ชัดเจนและง่ายที่สุดคือญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เป็นประเทศที่ป่นปี้และล้มละลายจากสงครามแต่ยังคิดและกล้าผลิต SEIKO มาสู้กับนาฬิกาของสวิส กล้าสร้างโตโยต้า ฮอนด้า นิสสัน มาสู้กับตลาดยุโรป กล้าผลิตกล้อง NIKON CANON มาสู้กับ LEICA ทุกวันนี้ ญี่ปุ่นเป็นผู้นำตลาดทั้งหมด เขาทำได้

ค.
ประเทศไทยคนไทยมีจุดแข็งอะไร?GDP คือตัวเลขความเจริญจริงหรือวัดได้จริงไหมบอกว่าเศรษฐกิจประเทศดีขึ้นเราในฐานะประชาชนได้จริงหรือเปล่า
เขาวัดจากการเอารายได้ของบรรษัทข้ามชาติบริษัทเอกชนใหญ่ๆเอารายได้ของโตโยต้าของเสี่ยเจริญของเจ้าสัวทั้งหลายเอามารวมกับรายได้เล็กๆน้อยๆของชาวบ้านแล้วหารเฉลี่ยจากนั้นก็มาสรุปว่าเศรษฐกิจเราดีถามว่าเราในฐานะประชาชนธรรมดาได้สักกี่บาท
เพราะฉะนั้นการศึกษาต้องสร้างความเข้มแข็งให้ประชาชน
เราต้องรู้จักตัวเองให้ดีเพื่อหาทางว่าจะเป็นเจ้าโลกด้วยสิ่งที่เรามีได้อย่างไร

เรามีดีอะไร เรามีดีทั้งนั้นแต่ด้วยความเป็นไทยเราก็มองว่าไทยไม่มีอะไรดีดีเอ็นเอของเราคือดูถูกตัวเองหรือเปล่าเราเลยต้องตามเขาก็อปปี้เขาเราต้องมี Body of knowledge ของตัวเองไม่ใช่ว่าปฏิเสธองค์ความรู้ตะวันตกเราต้องเรียนรู้จากเขาไม่ใช่ตามเขามีเกิดมีดับเคยเจริญก็เสื่อมลงได้ที่ผมเคยบอกไว้ยังยืนยันอีกครั้งว่า4 จุดแข็งของไทยต้องผลักดันให้เป็นยุทธศาสตร์ชาติและต้องเป็นวิสัยทัศน์ในการให้การศึกษา
หนึ่งการแพทย์และบริการทางสาธารณสุขสองการท่องเที่ยวและบริการสามครีเอทีฟอาร์ต (ภาพยนตร์ละครเพลงโฆษณาเกมการ์ตูนแอนิเมชั่น) สี่การเกษตร (เกษตรประณีต) และอาหาร

การท่องเที่ยวมันต้องเริ่มจากการเดินทางเข้ามาการบินนักบินพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินการบริหารสายการบินถามว่าทำไมคนถึงอยากมาเที่ยวที่เราเพราะเราไม่เหมือนใครถ้าเราเหมือนคนอื่นเขาก็ไม่อยากมาเราต้องภาคภูมิใจในความเป็นเราทำไมเราต้องมีซานโตรินีทัสคานาเรามีดีของเรามีดีมากๆแต่เรารักษามันไว้หรือไม่พัฒนาให้มันดีหรือเปล่าทะนุบำรุงไว้หรือเปล่าเราทำลายมันหมดทะเลปะการังขุดเจาะจนเละเทะไปหมด
จุดเด่นของเราคือความเป็นท้องถิ่นทั้งหมดอย่างผ้าไทยหัตถกรรมอาหารไทยวัฒนธรรมเกษตรกรรม
คำว่า “Agriculture” มาจากAgri (เกษตร) + Culture (วัฒนธรรม) แปลว่าวัฒนธรรมเกษตรเขาพูดแบบยกย่องไม่ได้ดูถูกไม่ได้พูดแบบต่ำต้อยแต่… เราขายที่ดินให้ต่างประเทศหวังเงินเฉพาะหน้าแล้วก็ยากจนต่อไป
สิงคโปร์ไม่มีที่ดินไม่มีทรัพยากรต้องพยายามทุกวิถีทางเพื่อทำการเกษตรทำ Vertical Farming บริหารจัดการให้ทุกตารางนิ้วมีคุณค่าเพราะเขาตระหนักว่าอาหารและการเกษตรคือความยั่งยืน

ง.
หลักสูตรในอนาคตการศึกษาต้องศึกษาเพื่อสร้าง “มหาวิทยาลัยคือขุมพลังแห่งปัญญาของชาติเพื่อปฏิรูปประเทศไทยไปสู่สังคมธรรมาธิปไตย” ต้องไม่ใช่ความรู้ทางวิชาการอย่างเดียวแต่ต้องวิชางานและวิชาคนด้วยไม่ใช่อยู่บนหอคอยงาช้างอีโก้เยอะแต่ไม่เกิดคุณค่าที่แท้จริงต่อบ้านเมืองได้ปริญญาได้เกียรตินิยมแต่ชาติไม่ได้อะไรแล้วเมื่อไรมันจะเจริญการศึกษาคือแกนในการพัฒนาชาติเมื่อไรที่การศึกษาคือเรื่องเดียวกับการพัฒนาชาติเมื่อนั้นชาติจึงจะเจริญเพราะฉะนั้นต้องเรียนอะไร :การศึกษาที่เตรียมเป็นผู้ประกอบการแทนที่จะศึกษาเพือเป็นลูกจ้างที่ให้ความรู้และประสบการณ์ทั้งในด้านวิชาการวิชางานและวิชาคน
– Gen Ed 25%
– ผู้ประกอบการ 30%
– สาขาอื่นๆเฉพาะทางที่นักศึกษาสนใจ 45%

หลักสูตรผู้ประกอบการบูรณาการ
– Logistics management
– Property management
– Healthcare management
งานเหล่านี้ต่างชาติเอาไปกินหมดเลยเขาเป็นผู้บริหารจัดการส่วนคนไทยเป็นลูกจ้างเป็นแรงงานถ้าเราอยากจะอยู่ดีกินดีเราต้องสอนให้เด็กเป็นผู้ประกอบการเองจะทำอะไรก็หัดคิดแบบเป็นผู้ประกอบการ ผมยกตัวอย่าง บริษัทฝรั่งเศสโซเด็คโซทำอะไรรับดูแลเรื่องอาหารรับทำความสะอาดจัดการเรื่องช่างและซ่อมบำรุงฯลฯเรื่องอย่างนี้มันน่าเจ็บใจไหมคนไทยไม่รู้เรื่องหรอต้องจ้างเขามาทำหรือบริษัทรับขายคอนโดพื้นที่ก็ของเราตึกก็ของเราคนซื้อก็พวกเราแต่เขาได้ค่านายหน้าซื้อขายไป

Be the first to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published.


*