สทบ. เร่งเดินหน้าติดตั้งเครื่องชำระเงินหวังร้านค้าฯ จะมีรายได้เพิ่ม 3 เท่า

สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) ผนึก 3 หน่วยงานรัฐ เดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก สนับสนุนเครื่องมือแก่ร้านค้าประชารัฐของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองล่าสุดมอบเครื่องรับชำระอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) ให้แก่ร้านค้าประชารัฐทั่วประเทศ และจะติดตั้งครบ 20,000 เครื่อง เพื่อรองรับการใช้จ่ายในโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ คาดสร้างรายได้เพิ่ม 3 เท่า

ในภาพอาจจะมี 6 คน, ผู้คนกำลังยืน

ในภาพอาจจะมี หนึ่งคนขึ้นไป, ดอกไม้ และ ข้อความ
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า จากความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับกระทรวงการคลังและสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) พร้อมด้วยธนาคารกรุงไทย ในการดำเนินโครงการบริหารจัดการร้านค้าประชารัฐ ทั้งของกระทรวงพาณิชย์และกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง เพื่อมอบเครื่องรับชำระอิเล็กทรอนิกส์ หรือ EDC ให้แก่ร้านค้าประชารัฐภายใต้การดูแลของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองในเขตกรุงเทพ และปริมณฑล รวมถึงร้านค้าประชารัฐธงฟ้า จำนวน 20,000 เครื่อง เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนที่ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ได้จับจ่ายสินค้าอุปโภคและบริโภค อย่างทั่วถึง ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็งมากขึ้น

“เครื่องรับชำระอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) จะกระตุ้นเพื่อให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อย ที่ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สามารถนำไปซื้อสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ ในร้านค้าธงฟ้าประชารัฐได้อย่างทั่วถึง เพียงพอต่อจำนวนผู้ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รวมทั้งเพื่อเป็นการเพิ่มรายได้ จากการจำหน่ายสินค้าให้แก่ร้านค้าปลีก” นายสนธิรัตน์ กล่าว

ในภาพอาจจะมี 1 คน, กำลังยืน

ในภาพอาจจะมี 2 คน, ผู้คนกำลังยืน และ สถานที่ในร่ม

นายนที ขลิบทอง ผู้อำนวยการ สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) กล่าวเพิ่มเติมว่า ตามที่รัฐบาลได้สนับสนุนงบประมาณตามโครงการเพิ่มศักยภาพหมู่บ้านและชุมชนเมือง เพื่อความเข็มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ รวมทั้งสนับสนุนกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ที่ได้รับอนุมัติโครงการกว่า 61,000 กองทุน ซึ่งการดำเนินงานภายใต้โครงการดังกล่าวทำให้กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ก่อเกิดโครงการต่างๆ ทั่วประเทศ โดยปรากฏว่ามีกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อดำเนินการร้านค้าประชารัฐถึง 19,270 แห่ง ซึ่งกองทุนฯ ที่ได้รับการพิจารณาอนุมัติงบประมาณเพื่อดำเนินกิจกรรมร้านค้าประชารัฐดังกล่าว มีแนวคิดในการดำเนินกิจกรรม ดังนี้ 1.เพื่อจำหน่ายสินค้าที่ชุมชนเป็นผู้ผลิตเอง ใช้เองในชุมชน 2.เพื่อจำหน่ายสินค้าที่สมาชิกในชุมชนมีความต้องการใช้สอยในชีวิตประจำวัน เช่น สินค้าอุปโภค บริโภค สินค้าที่ใช้สอยในชีวิตประจำวัน และ3. เพื่อจำหน่ายสินค้าที่ชุมชนผลิตให้กับผู้สนใจในพื้นที่อื่นๆ

ในภาพอาจจะมี หนึ่งคนขึ้นไป และ ผู้คนกำลังยืน

จากการดำเนินงานดังกล่าว การจะทำให้ร้านค้าประชารัฐสามารถพัฒนาเพื่อให้เกิดกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไปนั้นต้องทำให้ร้านค้าประชารัฐของกองทุนฯ พึ่งพาตนเองและมั่นคงเข็มแข็งได้อย่างยั่งยืน ด้วยการยกระดับการบริหารจัดการให้มีการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและได้รับความรู้ให้สามารถบริหารจัดการได้อย่างชาญฉลาด ใช้ความได้เปรียบของสมาชิกที่มีจำนวนมากเป็นความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ เพื่อประสบความสำเร็จในยุค 4.0 อันจะนำไปสู่ประสิทธิภาพการให้บริการประชาชนและการใช้งบประมาณแผ่นดิน งบประมาณกองทุนฯให้เกิดประโยชน์สูงสุดในระยะสั้นและระยะยาวต่อไป อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมช่องทางการจำหน่ายสินค้าผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การใช้ระบบ E-PAYMENT และเพิ่มศัยภาพผู้ผลิตสินค้าและผู้ประกอบการร้านค้าชุมชนให้มีความพร้อมในการยกระดับการดำเนินงานสู่ความสำเร็จในยุค 4.0
การดำเนินงานที่ผ่านมาสำนักงานกองทุนฯ (สทบ.) ได้ยกระดับร้านค้าประชารัฐของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง เพื่อส่งเสริมให้บุคลากรของกองทุนฯ มีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับระบบการบริหารจัดการร้านค้าด้วยเทคโนโลยีอย่างมืออาชีพ เป็นรูปธรรม โดยอาศัยหลักการกลไกด้านการตลาด ด้วยทฤษฎีทและการปฏิบัติจริงจากผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดโดยตรง โดยเฉพาะกิจกรรมด้านการประกอบอาชีพ การผลิตสินค้าและบริการ ที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและส่งเสริมความเป็นอยู่ของประชาชนในหมู่บ้านและชุมชนให้ดีขึ้น ทั้งยังเกิดผลิตภัณฑ์จากครัวเรือนในชุมชน และกิจกรรมการบริการรูปแบบต่างๆ ซึ่งทำให้เศรษฐกิจฐานรากของประเทศมั่นคงยิ่งขึ้น

“สทบ. ได้เดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ในการสนับสนุนเครื่องมือแก่ร้านค้าประชารัฐของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ล่าสุดมอบเครื่องรับชำระอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) ให้แก่ร้านค้าประชารัฐทั่วประเทศ และจะติดตั้งครบ 20,000 เครื่อง เพื่อรองรับการใช้จ่ายในโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ คาดสร้างรายได้เพิ่ม 3 เท่า” นายนที กล่าวทิ้งท้าย

 

Be the first to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published.


*