บทสัมภาษณ์ 2 คู่หู…สายบุญจิตอาสา เพื่อสังคมฯ 

บทสัมภาษณ์ 2 คู่หู…สายบุญจิตอาสา เพื่อสังคมฯ 

2 พี่น้องนักธุรกิจ จิตอาสาเพื่อสังคม…“เราทำความดี ด้วยหัวใจ เพื่อผู้ยากไร้ได้อิ่มท้อง”

ในภาพอาจจะมี 2 คน, คนที่ยิ้ม, ผู้คนกำลังยืน และ ชุดสูท

วันนี้เรามีโอกาสได้พบปะพูดคุยกับสองพี่น้อง ร่วมอุดมการณ์ที่ทำความดีด้วยจิตสำนึกที่ดีที่วันนี้มีแต่ให้สังคม  กับ 2 นักจิตอาสาเพื่อสังคม ตลอดปี ปี 2560 ใน ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ผ่านมาเราจะได้เห็นภาพข่าวของ 2 นักจิตอาสาที่ออกข่าวทางทีวีอยู่เนืองๆ ซึ่งทั้ง2ท่านและนักจิตอาสาท่านอื่นๆ ที่ความดีเพื่อถวายงาน  “ทำเพื่อพ่อเป็นครั้งสุดท้าย” ที่ท้องสนามหลวง แม้ช่วงวันเวลาดังกล่าวจะผ่านมาแล้วเกือบปี แต่ 2 นักจิตอาสาฯ ก็ยังไม่ทิ้งอุดมการณ์ยังคงสานต่อเจตนารมย์ทำความดีกันต่อไป เมื่อเร็วๆนี้กับกิจกรรมมาร่วมกันทำความดีเป็นจิตอาสาช่วงเทศกาลสงกรานต์วันหยุดยาวพี่น้องประชาชนก็เดินทางกลับบ้านที่ต่างจังหวัด 2หนุ่มจิตอาสาฯก็ได้ไปร่วมแจกอาหาร เครื่องดื่มให้ประชาชนได้ที่หัวลำโพงอย่างไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย และพวกเขายังได้ออกงานจิตอาสาฯ เฉลี่ยเดือนละ 2 ครั้ง ณ บริเวณ เสาชิงช้ากทม.และสถานีหัวลำโพง เพื่อต้องการช่วยเหลือสังคม… วันนี้เว็บไซต์ www.siam2variety.com ในฐานะสื่อออนไลน์ได้รับโอกาสดีๆเข้าร่วมพูดคุยร่วมกับพี่น้องสื่ออีกหลายแขนงเช่น หนังสือพิมพ์ ทีวีและสื่อออนไลน์อีกหลายๆแห่งเพื่อร่วมพูดคุยพบปะตัวเป็นๆกับ

ในภาพอาจจะมี 1 คน, กำลังยืน, รองเท้า และ ชุดสูท

คุณสมศักดิ์ ศรีเพชร หรือ ฉายาเค เยาวราช และ คุณภูตะคา ชัยเชาวรัตน์ (กอล์ฟ) กับบรรยากาศสบายๆ และเป็นกันเอง ช่วงสายๆของวันที่ 26 เมษายน 61 ที่ผ่านมา ณ บริเวณล็อบบี้ โรงแรม แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ

ในภาพอาจจะมี 3 คน, คนที่ยิ้ม

ซึ่งทั้ง2คู่ซี้นี้ได้รู้จักกันและสนิทกันทีงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ปี 2560 ด้วยอุดมการณ์เดียวกันคืองานจิตอาสาเพื่อสังคม การมาบริจาคสิ่งของ แจกจ่ายอาหาร เครื่องดื่ม ตลอดจนงานด้านสังคมสงเคราะห์อื่น อย่างไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย จนกลายมาเป็น 2 คู่หูสายบุญที่รักการการกุศลเหมือนกัน

ในภาพอาจจะมี 2 คน, คนที่ยิ้ม, ผู้คนกำลังยืน และ ชุดสูท

เค เยาวราช หรือ สมศักดิ์ ศรีเพชร หนุ่มใหญ่วัย 48 ปีที่ชีวิตเขาไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเขาต้องต่อสู้ฝ่าฟันชีวิตมาอย่างโชกโชน เกิดมาในครอบครัวใหญ่ที่ยากจนและที่มีพี่น้องถึง 12  เขาเป็นคนที่ 9 ไม่ได้เรียนหนังสือ พ่อมีอาชีพเป็นนักมวยเก่า จึงทำให้เขาต้องต่อสู้ดิ้นรนด้วยการตระเวณชกมวยตามสนามมวยต่างๆ หลายจังหวัด จนย้ายเข้ามาใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ ทำงานมากว่า100 อาชีพ เขาสู้ชีวิตอยากมีชีวิตที่ดีกว่า ช่วงที่เขาประทับใจมากที่สุดคือจนกลายเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตคือ ได้ไปชกมวยที่เวทีมวยสำโรง จ.สมุทรปราการ และถูกพี่เลี้ยงโกงเงินรางวัล ไม่มีเงินแม้แต่บาทเดียวติดตัว เพราะความเหนื่อยล้า ท้อใจ เขาจึงได้ร่อนเร่ไปหาที่หลับนอนเอาแรงที่ท้องสนามหลวง ทั้งเหนื่อยทั้งหิว แต่พอตื่นขึ้นมาก็มีคนนำข้าวมาให้กล่องหนึ่ง และเงิน 20บาท เขาจึงซาบซึ้งน้ำใจบุคคลคนๆนั้น จึงทำให้เขาอยากตอบแทนสังคมทุกๆวิธีที่เขาพอจะทำได้ เขาจึงมุ่งมั่นทำงานหลายอย่าง ทั้งเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยว ชา กาแฟ ขนมปัง ไอสครีม อาหารตามสั่ง เวลาว่างก็ตระเวณขับแท็กซี่ ขับเรือ หรือแม้แต่การเป็นอาสากู้ภัยเก็บศพไร้ญาติฯ จนทำให้รู้จักเพื่อนฝูงและผู้ใหญ่ มากมายหลายคนหลายวงการได้ให้ความเมตตาต่อเขาให้เขามีแรงศรัทธาในการทำความดีจิตอาสา เขาออกงานจิตอาสาฯ มาทุกพื้นที่ของไทย ทั้งที่พัทยา หลังสวน ฯลฯ และช่วงเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ปี พศ.2554 เขาได้ออกช่วยเหลือผู้ประสบภัยแทบจะทุกพื้นที่ที่ของไทย กับกิจกรรมจิตอาสาแจกจ่ายอาหาร เครื่องอุปโภคบริโภค ยารักษาโรค ฯลฯ เขาจะทำทุกครั้งและไม่ได้ออกข่าวให้สังคมรับรู้เขาทำด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์แบบปิดทองหลังพระ…แต่ทำให้เขากลายเป็นฮีโร่ ได้เพื่อนใหม่มากมาย ทำให้เขาต้องหยุดงานงานถึง 6 เดือนกว่าน้ำท่วมครั้งนั้นจะทุเลาลง  เพราะอยากตอบแทนบุญคุญแผ่นดินจนได้ไปถวายงานช่วงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ตลอดเวลาปีกว่าที่คลุกคลีที่ท้องสนามหลวง จนเขาได้เจอเพื่อนๆจิตอาสาฯหลายหน่วยงานสาธารณกุศลได้มาช่วยเหลือเขาจนได้เจอ รุ่นน้องคู่หู คุณกอล์ฟนักธุรกิจที่ปิดทองหลังพระมานาน ได้มาร่วมอุดมการณ์ที่จะมาช่วยกันสานต่อเจตนารมณ์เดียวกันคือ นักจิตอาสาสายบุญ ให้ผู้คนยากไร้ได้อิ่มท้องคือการทำบุญที่ยิ่งใหญ่ที่สุด โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน

ในภาพอาจจะมี 2 คน, ผู้คนกำลังนั่ง, ตาราง และ สถานที่ในร่ม

ในภาพอาจจะมี 1 คน, กำลังนั่ง และ อาหาร

ในภาพอาจจะมี 2 คน, ผู้คนกำลังยืน

ในภาพอาจจะมี หนึ่งคนขึ้นไป

ในภาพอาจจะมี 1 คน

เค เยาวราชให้สัมภาษณ์ไว้ว่า ” ชีวิตผมไม่ได้สบายเกิดมาในครอบครัวใหญ่ที่ยากจน ต้องต่อสู้ดิ้นรนเอาชีวิตให้รอด ทำงานมากว่า 100 อาชีพ หนักเอาเบาสู้ ช่วงวัยเด็กได้ยึดอาชีพนักมวย ซึ่งเป็นอาชีพของลูกผู้ชายชกมาหลายสังเวียนเป็นคนซื่อและไว้ใจพี่เลี้ยงจนถูกโกงค่าตัว ทั้งเหนื่อยทั้งหิว ไม่มีเงินพอมีคนยื่นน้ำใจให้ในวันที่ไม่เหลืออะไรกับ ข้าวกล่องเดียวกับเงิน20 บาท  ผมจึงตั้งปณิธานว่า ชีวิตที่เหลือต่อแต่นี้ไปผมจะทำแต่ความดีเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลให้ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ผมทำงานจิตอาสาฯ มานานมีเพื่อนร่วมอุดมการณ์หลากหลายอาชีพมาช่วยหนุนนำ ช่วยแรงผมได้เยอะผมไปทุกที่ที่ประสบภัย ไปคนเดียวแต่ได้เพื่อนใหม่ๆทุกอาชีพมาช่วยเสริมทีม ทั้งช่วยบริจาคเงิน และอาหารมาสมทบ ทำโดยไม่หวังผลตอบแทน ผมมีบุคคลต้นแบบหรือ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่พระองค์ทรงอุทิศพระวรกายไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยตอลด70ปีที่ครองราชย์ ทรงเสียสละความสุขเพื่อประชาชนของพระองค์ ผมจึงขอเจริญรอยตามพ่อของผ่นดิน ผมอยากตั้ง “ธนาคารบุญ” ที่ทุกคนสามารถทำความดีได้ไม่สิ้นสุด ทำได้ทุกๆคน ไม่ต้องรีรอ ที่ทุกคนมีส่วนร่วมทำความดีร่วมกันเพื่อผู้ยากไร้ อยากให้ทุกคนมีความรักต่อเพื่อนมนุษย์ผู้ยากไร้ ควรลดความเห็นแก่ตัวลง เพราะทรัพย์สินเราที่มีมากมาย ตายไปก็เอาไปด้วยไม่ได้ ควรสร้างสมความดีด้วยการให้และเมตตาแก่ผู้ยากไรด้วยกันนะครับ”

ในภาพอาจจะมี 1 คน, กำลังนั่ง, แว่นกันแดด และ สถานที่กลางแจ้ง

ในภาพอาจจะมี 1 คน, กำลังนั่ง

ในภาพอาจจะมี 5 คน, คนที่ยิ้ม, ผู้คนกำลังนั่ง, ผู้คนกำลังยืน และ สถานที่กลางแจ้ง

ในภาพอาจจะมี 3 คน, คนที่ยิ้ม, ผู้คนกำลังนั่ง, ผู้คนกำลังกิน และ อาหาร

ด้าน กอล์ฟ ภูตะคา ชัยเชาวรัตน์ นักธุกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ ดีกรีนักเรียนนอกจากออสเตรเลีย หนุ่มหล่อผู้ประสบอุบัติเหตุจนต้องกลายมาเป็นมนุษย์ล้อ แต่จิตใจเขากลับสนใจงานจิตอาสาฯ เพราะเคยท่องเที่ยวจนหัวราน้ำ ใช้ชีวิตช่วงวัยรุ่นอย่างโชกโชนเมื่อเขามีชีวิตรอดจากอุบัติเหตุ แม้จะพิการไม่สามารถเดินได้อีก แต่จิตใจเขากลับเปลี่ยนไปเมื่อต้องใช้ชีวิตที่เหลือเขาขอตอบแทนบุญคุญแผ่นดินด้วยการทำงานจิตอาสา จากยอดเงินจำนวน 5 เปอร์เซ็นต์จากธุรกิจขายบ้าน คอนโดฯ เขาจะหักเข้ากองทุนการกุศล การทำงานด้านบริการสังคมแบบจิตอาสาฯ ทำให้เขาได้เข้าสู้โหมดคนพิการที่มีหัวใจเพชร จนได้พบกับ เค เยาวราช แม้ก่อนหน้านี้เขาจะเป็นผู้ปิดทองหลังพระมานาน เค เยาวราชผู้เป็นแรงผลักดันให้เขาหันมาทุ่มเทงานด้านนี้อย่างหมดหัวใจ แม้จะเหน็ดหนื่อยแต่ก็สู้ไม่ถอย เมื่อสิ่งที่รับกลับมาคือความภูมิใจ ความดีใจที่เขาได้มีส่วนร่วมช่วยเหลือสังคม

 

กอล์ฟ ได้กล่าวไว้ว่า…”แต่ก่อนตอนร่างกายครบ 32 ประการ ช่วงวัยรุ่น ผมไม่เคยคิดว่าจะได้มาทำงานจิตอาสาฯเลย เพราะใช้ชีวิตช่วงนั้นอย่างโชกโชนทั้งกิน ทั้งเที่ยวและบ้างาน จนประสบอุบัติเหตุฟื้นตัวมา พบว่าเราไม่ตายแต่พิการไม่สามารถเดินได้ ตอนนั้นท้อแท้มาก แต่ก็ผ่านมาได้เพราะในหลวงรัชการที่ 9 เป็นแรงบรรดาลใจ ท่านทรงเหน็ดเหนื่อยกว่าพวกเราทุกคน ท่านเสียสละมากกว่าเราหลายร้อยเท่า จึงได้เข้าร่วมเป็นจิตอาสาฯเพื่อสังคมอย่างเต็มตัวในช่วงงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในหลวง ร.9 ได้เป็นส่วนหนึ่งของข้าฯแผ่นดิน จนได้พบเพื่อนๆ พี่ๆจิตอาสามากมายหลายคน และพี่เค เยาวราช ผู้เป็นแรงหนุนให้กำลังใจ จนกลายเป็นคู่หูสายบุญ…แต่ข้อจำกัดของผมคือ เราไม่สามารถทำทุกๆกรรมได้ อยากให้ประเทศเรามี “อารยสถาปัตย์” ที่เอื้ออำนวยแก่คนพิการ สิ่งก่อสร้าง อาคาร สาธารณะในบ้านเราไม่ได้ออกแบบมาสำหรับคนพิการ และอีกบุคคลหนึ่งที่ผมศรัทธาคือคุณ อ๋อย (กฤษนะ ละไล) พิธีกรชื่อดัง ผู้กลายมาเป็นมนุษย์ล้อผู้ปลุกกระแสให้สังคมหันมาใส่ใจคนพิการ ได้ทำงานร่วมกันมาก็หลายๆงาน …เร็วนี้เราจะมีโครงการอุปสมบทหมู่ จำนวน 67 รูป ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลฯ เป็นหนึ่งในกิจกรรมดีๆเพื่อสังคมต่อไป อยากเชิญชวนมาร่วมกิจกรรมดีๆนี้นะครับ กอล์ฟกล่าวสรุป

ท้ายบทสัมภาษณ์ 2 คู่หู..สายบุญจิตอาสา เพื่อสังคมฯ  ได้ฝากถึงสังคมไทยด้านงานจิตอาสาฯ ไว้ว่าเรามีโครงการจัดทำ ธนาคารความดี หรือธนาคารบุญ เพื่องานจิตอาสาไม่จำเป็นต้องลงทุนด้วยเงินมากมาย แต่เราสามารถลงแรงกาย แรงใจ ได้ด้วยทำด้วยจิตบริสุทธิ์ ไม่ต้องกลัวคำครหานินทา ผลตอบแทนกลับมาจะมีค่าด้านจิตใจ เราจะเป็นสุขใจ เพราะการให้ไม่มีที่สิ้นสุด มนุษย์เราจะรักสามัคคีกันโลกก็สงบสุขเพราะการให้ มีมากให้มาก มีน้อยก็ให้น้อย ถ้าเราเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่สงเคราะห์ให้กันและกันให้กับคนที่ขาดโอกาส ให้คนที่ไม่มี ไม่พร้อมได้อิ่มท้อง จะได้มีแรงกาย แรงใจได้ต่อสู้ใช้ชีวิตอย่างพอเพียงในสังคมต่อๆไป

ท้ายที่สุดขอขอบคุณสถานที่โรงแรม แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพ ที่เอื้อเฟื้อสถานที่ในการสัมภาษณ์และถ่ายทำ

Be the first to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published.


*