30 ปี ซีพีแรม (CPRAM) เดินหน้ามอบคุณค่าสู่สังคม มุ่งสู่องค์กรที่ยั่งยืน

30 ปี ซีพีแรม (CPRAM) เดินหน้ามอบคุณค่าสู่สังคม มุ่งสู่องค์กรที่ยั่งยืน พร้อมยกระดับขีดความสามารถเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมอาหารภูมิภาคเอเชีย เพื่อตอกย้ำผู้นำด้าน FOOD PROVIDER มาตรฐานโลก

บริษัท ซีพีแรม จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอาหารพร้อมรับประทานรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและผู้นำด้าน FOOD PROVIDER มาตรฐานโลก จัดงาน “30 ปี ซีพีแรม” ภายใต้แนวคิด “เคียงข้างกันตลอดไป (TOGETHER FOREVER)” ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยได้รับเกียรติจากนายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานกรรมการบริหาร เป็นประธานในงานดังกล่าว ในครั้งนนี้นายวิเศษ วิศิษฏ์วิญญู กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีแรม จำกัด ได้ประกาศทิศทางองค์กร 5 ปี (ค.ศ. 2018-2022)

ด้วยปณิธานที่จะส่งมอบอาหารที่มีคุณภาพ ซึ่งนอกจากรสชาติอร่อยแล้ว ยังเพียบพร้อมด้วยความปลอดภัย และให้คุณค่าทางโภชนาการ มุ่งมั่นสร้างสรรค์สินค้าและบริการที่ได้คุณภาพมาตราฐานอย่างต่อเนื่อง โดยคำนึงถึงการสร้างคุณค่าสูงสุดให้แก่ผู้บริโภค ตามมาด้วยการสร้างสรรค์คุณค่าให้กับพันธมิตร ด้วยการพัฒนาการบริหารจัดการ ห่วงโซ่อุปทาน (SUPPLY CHAIN MANAGEMENT) จนกระทั่งส่งสินค้าถึงมือลูกค้า ให้มีความต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพสูงสุดเสมอมา โดยมีสินค้าและบริการในกลุ่ม บริษัท ซีพีแรม จำกัด อาทิ แบรนด์เจด ดราก้อน, แบรนด์เลอแปง, แบรนด์เดลี่ไทย, แบรนด์เดลิกาเซีย, และแบรนด์ซีพีแรมแคทเทอริ่ง เป็นต้น

ในภาพอาจจะมี 1 คน, กำลังยิ้ม, กำลังนั่ง

นายวิเศษ วิศิษฏวิญญู กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีแรม จำกัด เปิดเผยว่า ซีพีแรม เดินทางผ่านยุคต่างๆ มาแล้วถึง 6 ยุค แต่ละยุคใช้เวลา 5 ปี รวมเวลาถึงวันนี้ ซีพีแรมมีอายุ 30 ปี เหตุผลที่เราแบ่งซีพีแรมในแต่ละยุคนั้น ก็เพราะว่าเรามีการกำหนดแผนยุทธศาสตร์องค์กรในระยะยาวไว้ทุกๆ 5 ปี เช่นเดียวกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติของไทย ตัวอย่างเช่น ยุคที่ 6 ที่เพิ่งจะผ่านพ้นไปนี้ก็คือ ยุคครบเครื่องด้วยนวัตกรรม เราได้มุ่งเน้นในการส่งเสริมการสร้างนวัตกรและได้สร้างสรรค์นวัตกรรมที่โดดเด่นขึ้นมากมาย แต่ในเวลาเดียวกันนั้นเราก็มุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศและเติบโตอย่างมั่นคงมาอย่างต่อเนื่อง ดังเห็นได้ว่า ในด้านความเป็นเลิศนั้น ในยุคที่ 6 เราได้รับรางวัล DEMING PRIZE 2015 และรางวัล KANO QUALITY AWARD 2016 ในระดับสูงสุด “DIAMOND AWARD” ด้านเติบโตอย่างมั่นคง เราก็ได้ขยายโรงงานอีก 4 แห่งในยุคนี้ด้วย

ในภาพอาจจะมี 5 คน, คนที่ยิ้ม, ผู้คนกำลังยืน

ในภาพอาจจะมี หนึ่งคนขึ้นไป และ ฝูงชน

สำหรับซีพีแรมยุคใหม่ได้เริ่มต้นแล้วในวันนี้ นับจากนี้ไปอีก 5 ปี เราเรียกยุคที่ 7 ว่า “ยุคศรีอัจฉริยะ” มอบคุณค่าสู่สังคม มุ่งสู่องค์กรที่ยังยืน ศรีอัจฉริยะมาจากคำสองคำ คำว่าศรีคือความดีงาม และคำว่าอัจฉริยะคือความเก่งเฉลียวฉลาด เมื่อนำสองคำมารวมกันเรียกว่า ศรีอัจฉริยะ จึงมีพร้อมด้วยความดีและความเก่ง ในยุคศรีอัจฉริยะนี้ ซีพีแรมและหุ้นส่วนทางยุธศาสตร์จะร่วมกันส่งมอบความดีคู่ความเก่งให้กับผู้บริโภคและสังคมในเวลาเดียวกัน ความดีและความเก่งนั้นไม่ใช่ 2 เรื่องที่เราจะส่งมอบ แต่เป็นเรื่องเดียว ที่มี 2 ด้านทั้งความดีและความเก่งอยู่ด้วยกันในเวลาเดียวกันดังนั้นผู้เกี่ยวข้องทุกคนที่รอยเรียงกันมาตั้งแต่ต้นน้ำสู่ปลายน้ำจึงมีส่วนสำคัญในการตอบสนองความคาดหวังของผู้บริโภคและสังคมทั้งสิ้น เราเรียกการร้อยเรียงของผู้ที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ต้นน้ำสู่ปลายน้ำนี้ว่า ห่วงโซ่อุปทาน หรือ SUPPLY CHAIN และส่งมอบความดีคู่ความเก่งให้กับผู้บริโภคและสังคม 3 ประการด้วยกัน คือ FOOD SAFETY, FOOD SECURITY, FOOD SUSTAINABILITY หรือจำง่ายๆ ว่า 3S ทั้ง 3S ไม่ได้เป็นเรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง
เราจะต้องร่วมกันทำตลอดห่วงโซ่อุปทานส่งมอบความดีคู่ความเก่งใน 3S นี้ให้กับผู้บิรโภคและสังคมเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วอะไรจะเป็นโซ่ทองคล้องใจให้เราทำความดี คู่ความเก่งนี้ตลอดห่วงโซ่อุปทาน เราเรียกสิ่งนั้นว่า TRUST หรือ ความเชื่อใจไร้ข้อสงสัย หากถามว่าใครคือคนทำอาหารให้เราทานตั้งแต่เล็กจนโตที่อยู่ในใจเรา ทุกคนต้องตอบว่า “คุณแม่ของเราเอง” แม่สรรหาและปรุงอาหารที่เราชอบมาให้เราทาน เลือกแต่ของดีๆ ปลอดภัย อร่อย และมีคุณค่าเพราะเราเชื่อใจคุณแม่อย่างไร้ข้อสงสัย เราจึงเป็นลูกค้าประจำของคุณแม่ตลอดมา ซึ่งก็มีความหมายเดียวกับ TRUST ตั้งแต่มาซีพีแรมจึงได้เปลี่ยนใช้วิสัยทัศน์ใหม่ว่า “เราจะเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอาหารพร้อมรับประทานชั้นนำที่ลูกค้ามอบความไว้วางใจให้”

ทั้งนี้ เป้าหมายในยุค 7 หรือใน 5 ปีต่อจากนี้ ซีพีแรมมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่และท้าทายมาก เราจะขยายการผลิตไปสู่ภูมิภาคมากขึ้น มีโรงงานใหม่เกิดขึ้นอีก 5 แห่ง 2 แห่งในที่ตั้งใหม่คือ โรงงานลำพูน และโรงงานสุราษฎร์ธานี และอีก 3 แห่งในที่ตั้งเดิม คือโรงงานชลบุรี โรงงานขอนแก่น และโรงงานบ่อเงิน จังหวัดปทุมธานี ซึ่งจะมีกำลังการผลิตรวม เพิ่มขึ้น 50-70% เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดที่เพิ่มขึ้นปีละ 15% และช่วยเสริมสร้างศักยภาพการขยายตัวของระบบเศรษฐกิจและการสร้างงาน สร้างรายได้ในภูมิภาค เราจะใช้เงิน 1% ของยอดขายหรือปีละ 150-200 ล้านบาท ทุ่มให้กับการวิจัยและพัฒานา ให้ได้มาซึ่งเทคโนโลยีและนวัตกรรมของตนเอง เพื่อใช้ในการขับเคลื่อนธุรกิจ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย THAILAND 4.0 รวมถึงเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อน และยกระดับขีดความสามารถของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมอาหารของภูมิภาคเอเซีย อีกทั้งซีพีแรมจะใช้เทคโนโลยีชีวภาพ มาพัฒนาอาหารสุขภาพและอาหารสำหรับบุคคลเฉพาะกลุ่ม เช่นผู้สูงวัย อาหารเด็ก และอาหารของผู้ป่วยโรคเบาหวาน เป็นต้น เราจะนำเอาเทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบการผลิตอัตโนมัติมาร่วมทำงานในโรงงานในจุดที่ทำงานหนักและมีความเสี่ยงต่อสุขภาพ

ชีพีแรม เดินหน้านำเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้กับทุกระบบงาน เรายังคงมุ่งมันสู่ความเป็นเลิศด้วยการยกระดับการบริหารจัดการคุณภาพทั่วทั้งองค์กรให้สูงขึ้น เราเคยได้รับรางวัล DEMING PRIZE มาแล้ว แต่เราก็ยังมีความท้าทายทีจะก้าวไปส่รางวัล GRAND DEMING PRIZE แต่ทั้งหมดทั้งปวงนี้ ซีพีเเรมคงไม่สามารถทำได้โดยตัวเราเพียงลำพังเราจะต้องทำด้วยกันตลอดห่วงโซ่อุปทานในยุคที่ 7 นี้ เราจะมีการพัฒนาร่วมกัน แบ่งปันความรู้ แบ่งปันข้อมูลกันด้วยความเชื่อใจ ไว้วางใจซึ่งกันและกันตลอดห่วงโซ่อุปทาน เราจะยกระดับขีดความสามารถของเราสู่ THAILAND 4.0 ด้วยห่วงโซ่อุปทานที่มีเทคโนโลยีมีการบริหารจัดการสู่ความเป็นเลิศยกระดบขึ้นพร้อมๆกัน และซีพีแรมจะทำความดีคู่ความเก่ง โดยมุ่งเน้นตลอด 5 ปี ในยุคที่ 7 ยุคศรีอัจฉริยะนี้ไปพร้อมกัน

 

ต่อต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ที่ปรึกษาส่วนงานประชาสัมพันธ์
นายภุริปพัฒน์ ภัทรมานนท์ 097-245-8501/ น.ส.ขวัญชนก แต่ประเสริฐ 091-956-9663

 

 

Be the first to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published.


*